ถ้าพูดถึงรองเท้าผ้าใบอย่างแบรนด์ Vans แล้ว คงจะไม่มีใครไม่รู้จักกัน เพราะว่ามองไปทางไหนก็จะเห็นคนใส่รองเท้าผ้าใบ Vans กัน ซึ่งรองเท้าผ้าใบแบรนด์นี้นั้นมีประวัติมายาวนาน ซึ่งประวัติของ Vans นั้นจะเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลย
กว่าจะมาเป็นแบรนด์รองเท้าผ้าใบสุดฮิตอย่าง Vans

บริษัทรองเท้าผ้าใบอย่าง Vans เริ่มต้นด้วยชื่อ The Van Doren Rubber Company ซึ่งต่อมาถูกเรียกสั้น ๆ ว่า Vans ก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 1966 ซึ่งช่วงเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา Vans นั้นเป็นที่จดจำในวงการแฟชั่น และได้มีการ Collaboration กับแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย และสิ่งที่ทำให้แบรนด์รองเท้าผ้าใบอย่าง Vans นั้นเป็นที่นิยมนั่นก็คือ การเป็นรองเท้าผ้าใบที่ทนทาน ถึงขนาดที่ว่าพื้น Waffle ยังคงใช้งานได้ดี แต่ตัวรองเท้าขาดจุดไม่เหลืออะไรแล้วก็ยังมี ซึ่งจุดเริ่มต้นของ Vans นั้นมาจากคน 4 คนได้แก่พี่น้อง Van Doren คือคุณ Paul และคุณ James ร่วมกับหุ้นส่วนคือคุณ Serge D’Elia และ Gordon Lee และพอแบรนด์รองเท้าผ้าใบอย่าง Vans เปิดร้านครั้งแรกก็มีคนให้ความสนใจกับรองเท้าผ้าใบพื้น Waffle ที่พัฒนาส่วนผสมวัตถุดิบยางเอง และซื้อกลับบ้านไปใช้ทั้งหมดเพียง 16 ราย
พอเข้าสู่ช่วง 1970s ซึ่งเป็นที่กระแส Skateboard นั้นเริ่มโด่งดังและแบรนด์รองเท้าผ้าใบแบรนด์อื่นก็หันไปผลิตรองเท้าแบบอื่นกันหมด จึงทำให้ Vans เห็นช่องว่างดังกล่าว และกระโดดเข้ามาครองตลาดรองเท้าผ้าใบสำหรับเล่น Skate แบบเต็มรูปแบบโดยนัก Skate ชื่อดังในยุคสมัยนั้นต่างก็ใช้ Vans กันหมดไม่ว่าจะเป็น Z-boys Tony Alva และ Stacy Peralta เนื่องจากความแข็งแรงทนทานและพื้นหนาที่เรียกว่า Waffle Sole
หลังจากความโด่งดังของรองเท้าผ้าใบสำหรับเล่น Skate จึงทำให้แบรนด์ Vans พัฒนาทรงใหม่ในช่วงกลางปี 1970s โดยให้ชื่อว่า “The Era” ซึ่งถือเป็นเวอร์ชั่นพัฒนามาจาก Authentic นั่นเองและให้รหัสว่า “Style #95” แถมเริ่มพัฒนาระบบการผลิตแบบ Custom Made คือให้ลูกค้าสามารถเลือกชนิดของผ้าได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มากในวงการ Skate ที่ทุกคนต่างต้องการความเท่แบบไม่ซ้ำใคร บวกกับ Design ที่เพิ่ม Support บริเวณข้อเท้าทำให้ Era โด่งดัง และในปี 1977 ทางแบรนด์ Vans ก็ได้ปล่อยรองเท้าผ้าใบ Old Skool ออกมาเขย่าตลาดอีกรอบ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในการใส่ลวดลายเอกลักษณ์อย่าง Jazz Stripe ลงไป
จนเข้าสู่ปี 1982 ด้วยความดังของหนังเรื่อง Fast Times at Ridgemont High ก็ทำให้แบรนด์รองเท้าผ้าใบอย่าง Vans ที่ถูกใส่โดย Sean Penn ดังเป็นพลุแตกกับรองเท้าผ้าใบ Vans รุ่น Slip-On รหัส #77 ที่เป็นลายตารางหมากรุก จากนั้นในปีต่อมา Vans ก็เริ่มขยับขยาย เพิ่มช่องทางในการขายมากขึ้น โดยขยายตลาดไปสู่ Pop Culture และเริ่มมีการ Collaboration มากขึ้น แต่พอก้าวเข้าสู่ปี 1984 แบรนด์รองเท้าผ้าใบ Vans ก็ได้เกิดปัญหาด้านการเงินจนล้มละลาย เพราะราคาขายของรองเท้าผ้าใบที่ Vans ผลิตมีราคาที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับวัตถุดิบและการตัดเย็บทำให้รายจ่ายมีมากกว่ารายรับนั่นเอง จึงได้มีการปรับโครงสร้างเพื่อฟื้นฟูกิจการในที่สุด
จนในปัจจุบันแบรนด์รองเท้าผ้าใบ Vans นั้นยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดรองเท้าผ้าใบ และวัยรุ่นทุกคนต้องมีรองเท้าผ้าใบอย่าง Vans ติดบ้านสักคู่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Authentic, Era, Old Skool หรือ Slip-On ก็ตามที จนในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ได้มี Viral Video นามว่า “Damn, Daniel” ดังกระฉ่อนโลกไซเบอร์เลยก็ว่าได้ และล่าสุดกับ Old Skool ที่ได้ร่วมแสดงกับ Matthew Healy หรือ Matty จากวง 1975 ในเพลง Somebody Else ใครยังไม่มี ต้องรีบไปซื้อด่วนๆ ละครับไม่งั้นเชยตายเลย
บทบาทของรองเท้า Vans ในประเทศไทย

แบรนด์ Vans of The Wall หรือ Vans ถือได้ว่าเป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายและ Accessories โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในประเทศไทยของเราจริง ๆ แบรนด์รองเท้าผ้าใบอย่าง Vans คงจะไม่มีใครไม่เคยได้ยินแบรนด์นี้
ซึ่ง Vans นั้นมีโมเดลรองเท้าผ้าใบรุ่นฮิตหลาย ๆ รุ่น เช่น Vans Authentic , Vans Old Skool และ Vans Slip-On แต่ถ้าเป็นรุ่นที่พึ่งกลับมาฮิตติดลมบนคงจะหนีไม่พ้นรุ่น SK8 (Hi) Black ที่พระเอกดังอย่าง Paul Walker จาก The Fast & The Furious ใช้สวมใส่กระทืบคันเร่งและเบรกรถจากหนังในภาค 7 ของชุดภาพยนตร์ชุดนี้นั่นเองครับ
นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบและปัจจัยอื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมายครับ ยกตัวอย่างเช่น การบอกต่อกันปากต่อปากของวัยรุ่นวัยใสชาวไทยที่ได้หันมาทดลองสวมใส่แล้วเกิดความประทับใจถึงขนาดเสพติดกันจนต้องบอกต่อเพื่อน ๆ กันเป็นว่าเล่น และเมื่อกระแสที่แพร่กระจายออกไปอย่างแพร่หลายทั่วประเทศแล้วก็ถือเป็นเรื่องง่ายที่ทางบริษัทแม่อย่าง Excellent Sport ที่เป็น Dealer & Distributor ในเมืองไทยของ แบรนด์ Vans of The Wall หรือ Vans ที่จะขยายฐานการกระจายและจำหน่ายสินค้าลงสู่ Shop และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือแม้กระทั่งร้านเสื้อผ้าแฟชั่นชื่อดังต่าง ๆ และนั่นเองจึงเป็นเหตุผลให้ Vans นั้นหาซื้อง่ายมาก ๆ เพราะนอกจากร้านค้าที่มีหน้าร้านแล้วก็ยังมีร้านจำหน่ายรองเท้า Vans Online อีกจำนวนมากที่เข้ามามีบทบาทในการส่ง Vans ถึงมือคุณลูกค้าทั่วประเทศ อธิเช่น Lazada, Zalora และ WeSneaker เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุผลและปัจจัยที่ผลักดันให้รองเท้าผ้าใบ Vans และสินค้าอื่น ๆ จากแบรนด์ดังจากอเมริกาอย่าง Vans นั้นเข้ามามีบทบาทกับการแต่งตัวของวัยรุ่นไทยเป็นอย่างมากนั่นเอง
แนะนำ 5 รุ่นรองเท้าผ้าใบสุดคูลจาก Vans
รองเท้าผ้าใบ Vans Old Skool

รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิกอย่าง Vans Old Skool ซึ่งเป็นรองเท้าผ้าใบเจ้าแรกที่ดีไซน์แถบด้านข้างเส้นขาว ๆ ที่เรียกว่า jezz stripe เป็นที่โดดเด่นและเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Vans เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น เพราะมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีเชือกรองเท้าที่สามารถปรับความกระชับให้พอดีกับเท้า จะใส่เที่ยว ทำงานก็ดูเท่เป็นอย่างมาก สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
รองเท้าผ้าใบ Vans Slip-On Classic

เทคโนโลยีล่าสุดของ Vans มาเพิ่มความสบาย น่าใส่มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงรูปลักษณ์ไว้แบบตัว Classic รองเท้าสุดฮิต ลายตารางหมากรุก ยอดนิยม ยังเป็นรุ่นที่ขายดีถึงปัจจุบัน ด้วยลวดลายคงความคลาสสิก มีเอกลักษณ์ มีความยืดหยุ่นดี พื้นรองเท้าให้สัมผัสที่นิ่มสบาย สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน เป็นรองเท้าผ้าใบแบบสวม ไม่มีเชือกผูกรองเท้า ให้ความรู้สึกเคลื่อนที่อย่างอิสระ ใส่ไปไหนก็ดูเก๋ เท่มากๆ
รองเท้าผ้าใบ Vans Authentic

รองเท้าผ้าใบรุ่นแรกที่ผลิตออกวางขายในตลาด Vans Authentic Classic White สีขาวล้วน Upper ด้านนอกผลิตจากผ้า Canvas ซับด้านในผลิตจากผ้า Textile พื้นรองเท้าด้านในและด้านล่างทำจากยาง Rubber พื้นรองเท้าเป็นยางรองรับการกระแทกได้เป็นอย่างดี ทนทานสูง ไม่ลื่น ระบายอากาศ ป้องกันการอับชื้นได้ดี จำนวนรูผูกเชือกขึ้นอยู่กับขนาดไซส์รองเท้า พร้อมเชือกรองเท้าสีตรงรุ่น ดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย
รองเท้าผ้าใบ Vans Style 36

รองเท้าผ้าใบ Style 36 โมเดลที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายของรองเท้าผ้าใบในยุควินเทจ 70 ซึ่งโด่งดังหลังจากที่ G-Dragon ศิลปินและแฟชั่นไอคอนชื่อดังจากประเทศเกาหลี นำกลับมาสวมใส่อีกครั้ง รวมถึงยังเป็นต้นแบบในการดีไซน์ของ Old Skool โมเดลสุดร้อนแรงอีกด้วย ดีไซน์ของ Style 36 จะมาพร้อมกับรูปทรงที่มีความเรียวยิ่งขึ้น ด้านหน้ารองเท้า (Toe Box) จะมาพร้อมกับวัสดุหนังกลับ (Suede) ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานในการสวมใส่ยิ่งขึ้น ผสมผสานเข้ากับวัสดุผ้า Canvas ซึ่งจะมาในโทนสี Marshmallow เพิ่มความพิเศษด้วยลวดลาย “Jazz Stripe” หรือ “แถบตัวหนอน” สุดคลาสสิก
รองเท้าผ้าใบ Vans BMX Era รุ่น VN0A4BV4V3H1

รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ Vans ผลิตร่วมกับ BMX แบรนด์จักรยานชื่อดังในกีฬา Extream ใครชอบสะสมงาน Collaboration ที่ผลิตมาครั้งเดียวแนะนำรุ่นนี้เลย ตัวรองเท้าผ้าใบทำจากผ้า Canvas หนา 10 Oz สกรีนลายตารางด้านข้าง สกรีนโลโก้ Vans BMX ที่พื้นรองเท้า